ปลูกโหระพา ง่ายๆไว้กินเองที่บ้าน !

ปลูกโหระพา ง่ายๆไว้กินเองที่บ้าน !     นอกจากการปลูกต้นไม้ ดอกไม้แล้ว ผักสวนครัวก็ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียที่คนรักการจัดสวน ไม่ควรพลาด เพราะนอกจากนี้ คลินิกพืชคูลเกษตร แนะนำไปยัง โหระพา ผักสวนครัวปลูกง่าย ๆ ดูแลไม่ยาก มากด้วยสรรพคุณได้หลากหลาย วันนี้ คลินิกพืชคูลเกษตรเลยอยากบอกวิธีปลูก วิธีดูแล และโรคโหระพาที่ควรระวังมาฝากกันค่ะ คลินิกพืชคูลเกษตร

พืชมีปัญหาปรึกษาคลินิกพืชคูลเกษตรทันทีได้ที่

ลักษณะของต้นโหระพา เป็นพืชล้มลุกอายุสั้น ความสูงประมาณ 40-60 เซนติเมตร ลำต้นมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมและมีขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านเป็นสีม่วงอมแดง มีขนอ่อน ๆ ตามลำต้น  มีกิ่งก้านเป็นทรงพุ่ม ก้านอ่อนสีม่วง-แดง แตกแขนงออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน มีใบแทงออกตามข้อเดี่ยว ลักษณะเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ สีเขียวเข้มมองเห็นเส้นใบชัดเจน ความกว้างประมาณ 3-4 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 6 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบหยักคล้ายฟันเลื่อน และมีกลิ่นหอม ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด แต่ละช่อดอกเรียงเป็นชั้น ชั้นละ 6-8 ดอก ดอกมีขาวอมม่วง ในดอกมีเมล็ดใน 3-4 เมล็ด ลักษณะเมล็ดคล้ายหยดน้ำ ขนาดประมาณ 1 มิลลิเมตร สีน้ำตาลเข้ม มีเมือกหุ้ม เมื่อนำมาแช่น้ำเมือกจะพองตัวออกคล้ายเมล็ดแมงลัก

คลินิกพืชคูลเกษตรขอแนะนำวิธีปลูกโหระพา

          โหระพาเป็นพืชที่ปลูกง่าย ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวได้ 1-2 ปี โหระพาจะขึ้นได้ดีในดินร่วนซุยที่มีความอุดมสมบูรณ์และระบายน้ำได้ดีเป็นพิเศษ เหมาะจะปลูกในตอนเย็น ซึ่งต้องทำการเตรียมขุดดินให้ลึกประมาณ 20-25 เซนติเมตร ย่อยให้ละเอียดพร้อมเก็บเศษวัชพืชออกให้เรียบร้อย จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 7-10 วัน แล้วใส่ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมักและปุ๋ยเคมีลงไปให้ทั่ว คลุกให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็ลงมือปลูก โดยนิยม 2 วิธี ได้แก่

  1. การเพาะกล้าและย้ายปลูก : หว่านเมล็ดแล้วใช้แกลบหรือฟางคลุมพร้อมรดน้ำตามทันที จากนั้นก็หมั่นรดน้ำทุกเช้า-เย็น จนมีอายุ 20-25 วัน จึงทำการถอนกล้าแล้วเด็ดยอดเพื่อย้ายปลูก โดยถ้าปลูกในแปลงควรเว้นระยะให้ห่างประมาณ 20-30 เซนติเมตร ถ้าปลูกในกระถางก็กระถางละ 1-2 ต้น
  1. การปักชำโหระพา : ตัดกิ่งโหระพาที่โตเต็มที่หรือยาวประมาณ 5-10 เซนติเมตร เด็ดใบออกและเหลือไว้เพียงบางส่วน นำไปปักชำลงในแปลงหรือกระถาง จากนั้นใช้หญ้าแห้งหรือฟางคลุมแล้วรดน้ำตามทันที

วิธีดูแลและเก็บเกี่ยว

  1. โหระพาเป็นพืชที่ดูแลง่าย โตเร็ว ชอบความชื้นสูงและสม่ำเสมอ แดดไม่จัด จึงต้องคอยรดน้ำทุกวัน แต่อย่าปล่อยให้ท่วมขังจนเกินไป อีกทั้งในช่วงแรกควรพรวนดินและกำจัดศัตรูพืชออกทุก 1-2 สัปดาห์ โดยระวังไม่ให้กระทบต้นและราก
  2.  สำหรับการเก็บเกี่ยว ต้นโหระพาสามารถเก็บเกี่ยวได้หลังจากปลูกประมาณ 30-35 วัน โดยใช้มีดคม ๆ ตัดกิ่งให้ห่างจากยอดลงมาประมาณ 10-15 เซนติเมตร สามารถเก็บเกี่ยวได้ทุก ๆ 15-20 วัน ไปจนถึงอายุ 7-8 เดือน

คลินิกพืชคูลเกษตร ขอแนะนำโรคและแมลงที่ต้องระวัง

          นอกจากวัชพืช เช่น แห้วหมูและผักโขม ที่ต้องคอยระวังและกำจัดแล้ว คนที่ปลูกต้นโหระพาต้องคอยสำรวจตรวจเช็กและใส่ใจดูแลเพื่อป้องกันโรคและแมลงเหล่านี้เอาไว้ด้วย

          – เพลี้ยไฟโหระพา : เป็นเพลี้ยที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากเซลล์พืช ทำให้ใบหรือยอดอ่อนหงิก ส่วนขอบม้วนงอ โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยการหมั่นสำรวจและติดกับดักกาวเหนียวสีเหลือง เพื่อดักจับตัวโตเต็มวัย

          – เพลี้ยอ่อนฝ้าย : เป็นเพลี้ยที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบและยอด ทำให้มีอาการงอหงิก และชะงักการเจริญเติบโต อีกทั้งยังเป็นพาหะนำไวรัสหลายชนิดมาสู่พืชด้วย โดยจะพบมากในช่วงอากาศแห้งแล้งหรือฤดูหนาว แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการกำจัดวัชพืชเป็นประจำ และถ้าหากพบพืชหงิกงอให้ตัดส่วนนั้น ๆ ออกแล้วนำมาเผาทิ้ง

          – แมลงหวี่ขาวยาสูบ : เป็นแมลงที่ดูดกินน้ำเลี้ยงจากใบ ทำให้ใบเหี่ยวแห้งและต้นแคระแกร็น อีกทั้งยังเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคด่างเหลืองอีกด้วย พบมากในฤดูแล้ง สามารถแก้ไขได้ด้วยการหมั่นสำรวจและติดกับดักกาวเหนียวสีเหลือง เพื่อดักจับตัวโตเต็มวัย

          – หนอนแมลงวันชอบใบ : เป็นหนอนที่ชอนไชใบจนทำให้เกิดรอยสีขาว แต่ถ้าระบาดรุนแรงอาจจะทำให้ใบร่วงและตายได้ ส่วนการแก้ไขคือ หมั่นเก็บเศษใบที่ถูกทำลายและร่วงหล่นตามพื้นดินมาเผาทิ้ง จะช่วยลดการแพร่ระบาดได้

          – หนอนผีเสื้อห่อใบ : เป็นตัวอ่อนของผีเสื้อที่มักจะปล่อยเส้นใยและกัดกินใบไปเรื่อย ๆ จนถึงยอด

          – โรคราน้ำค้าง : เป็นโรคที่ทำลายใบด้านบนให้เป็นสีเหลือง ส่วนด้านล่างเป็นเชื้อราสีน้ำตาล สามารถแก้ไขและป้องกันด้วยการเลือกใช้เมล็ดที่ปลอดโรค พร้อมทั้งทำความสะอาดเมล็ดให้ดีก่อนปลูก นอกจากนี้อย่าปลูกให้หนาแน่นเกินไป พร้อมทั้งคอยเก็บเศษซากของพืชหลังจากการเก็บเกี่ยวด้วย

          – โรคเหี่ยว : เป็นโรคที่ทำให้ใบดำและเหี่ยวตาย สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดยากำจัดเชื้อรา

          – โรคใบเน่า : เป็นโรคที่ทำให้ใบเป็นแผล มีน้ำและมีเมือก โดยแผลจะค่อย ๆ ลุกลามไปเรื่อย ๆ จนทำให้ต้นเน่าตาย

          – โรคใบจุด : เป็นโรคที่ทำให้ใบมีจุดสีน้ำตาลเข้มถึงดำ จากนั้นใบโหระพาก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทั้งใบ แล้วร่วงหล่นลงตามมาลำดับ

          ทั้งปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก สรรพคุณดี และมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ ถ้าหากใครยังไม่รู้ว่าจะปลูกผัก ปลูกผลไม้อะไรดี คลินิกพืชคูลเกษตรขอแนะนำให้ปลูกโหระพาติดบ้านเอาไว้เลย รับรองอร่อยเด็ด มีคุณค่า และใช้ประโยชน์ได้หลากหลายแน่นอน

ซื้อออนไลน์ ห่างไกลโควิด ส่งไว ส่งฟรี ยินดีให้บริการ มีบริการเก็บเงินปลายทาง

ช่องทางการสั่งซื้อและขอคำปรึกษา จัดการได้ทันที สอบถามได้ที่

โทร. 095-237-1723

เข้ากลุ่มคนรักพืช เพื่อติดตามความรู้ใหม่ๆ สอบถามปัญหาพืช ได้ทุกวันที่นี่

ไลน์แอด @koolkaset คลิกที่นี่ 

สั่งซื้อโดยตรงทาง คลินิกพืชคูลเกษตร คลิกที่นี่ 

สั่งซื้อทาง ลาซาด้า คลิกที่นี่

สั่งซื้อทาง ช้อปปี้ คลิกที่นี่  

#คลินิกพืช #คลินิกพืชคูลเกษตร #คูลเกษตร #ที่ปรึกษาพืช #ออนไลน์ #ทั่วไทย #ที่ปรึกษาพืชออนไลน์ทั่วไทย #KoolKaset #พืช #เกษตร #แมลง #หนอน #เพลี้ย #ปุ๋ย #กำจัดหญ้า #กำจัดแมลง #ศัตรูพืช #วัชพืช #โรคพืช #ต้นไม้ #เพลี้ยไฟ #เพลี้ยจั๊กจั่น #เพลี้ยอ่อน #แมลงหวี่ขาว #หญ้า #ไร #ผลไม้ #ไม้ดอก #ข้าว #ข้าวโพด #ลำไย #มะม่วง #ข้าวโพด #มันสำปะหลัง #มันเทศ #กัญชา #กระท่อม #ทุเรียน #พริก #มะเขือ #มะนาว #ถั่วฝักยาว #ถั่วพลู #ถั่วเขียว #ถั่วเหลือง #ถั่วดำ #กล้วย #กล้วยหอม #สัปปะรด #มะพร้าว #อินทผาลัม #ผักกาด #กะหล่ำปลี #กะหล่ำดอก #โหระพา #กะเพรา #สะระแหน่ #บวบ #ฟักทอง #แตงโม #แตงกวา #แตงร้าน #แตงไทย #มะระ #น้ำเต้า #กระเจี๊ยบ #แอปเปิ้ล #สตรอเบอรี่ #มะละกอ #มะขาม #มะขามเทศ #เห็ด #ถั่วแขก #หน่อไม้ฝรั่ง #แครอท #หัวไช้เท้า #เผือก #มันเทศ #ชา #กาแฟ #มะกรูด #ตะไคร้ #ส้มเขียวหวาน #ส้ม #ส้มโอ #ฟัก #แฟง #แตง #ลิ้นจี้ #ลองกอง #พุทรา #ขนุน #แก้วมังกร #คะน้า #กวางตุ้ง #ผักชี #ผักชีฝรั่ง #ผักชีลาว #แคนตาลูป #มะเขือพวง #มะเขือเปราะ #มะเขือยาว #มะเขือม่วง #โคโลคาเซีย #ไทรเกาหลี #กุหลาบ #ดาวเรือง #มะลิ #เบญจมาศ #สร้อยทอง #องุ่น #สาลี่ #ฝรั่ง #มะยงชิด

                                                                       อ้างอิง

https://www.pd.co.th

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *