การดูแลรักษาหอมแดงไว้ทำพันธุ์

การดูแลรักษา หอมแดง ไว้ทำพันธุ์ เป็นพืชล้มลุก มีลำต้นใต้ดินเรียกว่าหัวสะสมอาหาร หอมแดงสามารถขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด แต่ชอบดินร่วน ที่มีความเป็นกรดเป็นด่าง (pH) ประมาณ 5.0 – 6.5 และความชื้นในดินควรสูงในขณะที่เจริญเติบโต แต่เมื่อหัวเริ่มแก่ดินและอากาศต้องแห้ง ช่วงที่ปลูกได้ผลดี คือ ตั้งแต่เดือน พฤศจิกายน – มีนาคม คลินิกพืชคูลเกษตร

พืชมีปัญหาปรึกษาคลินิกพืชคูลเกษตรทันทีได้ที่

พันธุ์ของ หอมแดง ที่ คลินิกพืชคูลเกษตร แนะนำเกษตรกรนิยมปลูก

  1. หอมแดง พันธุ์พื้นเมืองภาคเหนือ ทางภาคเหนือเรียก  หอมบั่ว เป็นหอมแดงที่มีเปลือกนอกสีเหลืองปนส้มขนาดหัวปานกลาง ลักษณะกลมรี ใน 1 หัวแยกได้ 2-3 กลีบ กลิ่นไม่ฉุนจัด รสหวาน ระหว่างการเจริญเติบโตไม่มีดอกและเมล็ด  เมื่อปลูก 1 หัว จะแตกกอให้หัวประมาณ  5-8  หัว อายุเมื่อหัวแก่เต็มที่ในฤดูหนาว 90 วัน และฤดูฝน 45 วัน  ผลผลิตที่ได้ประมาณ  2000-3000  กิโลกรัม/ไร่ ขึ้นอยู่กับฤดูปลูกและการดูแลรักษา คุณภาพในการเก็บรักษา
  2. หอมแดง พันธุ์บางช้างหรือหอมแดงศรีสะเกษ เป็นหอมแดงที่มีเปลือกนอกสีม่วงปนแดง  เปลือกหนาและเหนียว  ขนาดหัวใหญ่ สม่ำเสมอ หัวมีลักษณะกลมใน 1 หัว มี 1-2 กลีบ กลิ่นฉุนจัด มีรสหวาน ระหว่างการเจริญเติบโตจะสร้างดอกและเมล็ดมาก ซึ่งจะต้องหมั่นตรวจดูและเด็ดทิ้งให้หมด มิฉะนั้นจะทำให้ได้ขนาดหัวเล็กและจำนวนหัวน้อย  โดยทั่วไปเมื่อปลูก 1  หัวจะแตกกอให้หัวประมาณ 8-10  หัว  การแตกกอและลงหัวช้ากว่าหอมบั่วเล็กน้อย  มีอายุเมื่อหัวแก่เต็มที่ให้ฤดูหนาว 100 วันขึ้นไป และฤดูฝน 45 วัน ให้ผลผลิตแตกต่างกันไปตามฤดูปลูกและการดูแลรักษาได้ประมาณ  1000-5000  กิโลกรัม/ไร่  คุณภาพในการเก็บรักษาดีกว่าหอมบั่ว

คลินิกพืชคูลเกษตรแนะนำการเพาะปลูกเตรียมดิน หอมแดงมีระบบรากตื้น ชอบดินร่วน มีการระบายน้ำดี แปลงปลูกควรไถพรวนหรือขุดด้วยจอบพลิกดินตากแดดไว้ก่อน 2-3 วัน แล้วย่อยดินให้เป็นก้อนเล็ก อย่าให้ละเอียดมากเพราะจะทำให้ดินแน่น หอมลงหัวยากควรใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยมูลสัตว์ลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว เก็บเศษวัชพืช หรือรากหญ้าอื่นๆ ออกให้หมดแล้วรองพื้นก่อนปลูกด้วยปุ๋ยคลินิกพืชคูลเกษตร สูตร 15-15-15 ในปริมาณ 20-50 กิโลกรัม/ไร่

การเตรียมพันธุ์ หอมแดง หัวหอมพันธุ์ที่จะใช้ปลูกควรเตรียมไว้ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือน เพราะหัวหอมที่จะใช้ปลูกควรมีระยะพักตัวอยู่สักระยะหนึ่ง แต่ไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 6 เดือน เพราะระยะนี้หอมจะเริ่มแดงยอดอ่อนสีเขียวพ้นหัวเก่ามาแล้ว ให้นำหัวหอมพันธุ์มาตัดแต่งทำความสะอาด ตัดเล็มรากเก่า และใบแห้งทิ้งให้หมด หากเห็นว่ายอดอ่อนยาวอาจตัดทิ้งเสียสัก  1  ใน 10 เพื่อเร่งให้งอกไวเมื่อปลูกแล้ว ในพื้นที่ปลู 1 ไร่จะใช้หัวหอมพันธุ์ประมาณ 200 กิโลกรัม ก่อนปลูกหากเห็นว่าหัวหอมพันธุ์เป็นโรคราดำ หรือมีเน่าปะปนมา ต้องฉีดพ่นหรือจุ่มน้ำสารละลายป้องกันกำจัดเชื้อราจำพวกมาเนบ หรือซีเนบ  ตามอัตราที่คลินิกพืชคูลเกษตร แนะนำทำตามกำหนดให้ในฉลาก และผึ่งลมให้แห้งก่อนนำไปปลูก

ระยะปลูก นิยมปลูกเป็นแปลงขนาดกว้าง 1-1.5 เมตร ความยาวของแปลง เป็นไปตามความสะดวกในการปฏิบัติงานควรปลูกเป็นแถว ระยะปลูก 15-20  ซม.หรือ  20-20  ซม.

ก่อนปลูก ควรรดน้ำแปลงปลูกให้ดินชุ่มชื้นไว้ล่วงหน้า  นำหัวหอมพันธุ์มาปลูกลงในแปลง  โดยเอาส่วนโคนหรือที่เคยเป็นที่ออกรากเก่าจิ้มลงไปในดินประมาณครึ่งหัว  ระวังอย่ากดแรงนักจะทำให้ลำต้นหรือหัวช้ำทำให้ไม่งอก หรืองอกรากช้า  เมื่อปลูกทั่วทั้งแปลงให้คลุมด้วยฟางหรือหญ้าแห้งหรือแกลบหนาพอสมควรเป็นการรักษาความชุ่มชื้นและคุมวัชพืช จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม ต้นหอมจะงอกออกมาภายใน 7-10 วัน หากหัวใดไม่ลอกให้ทำการปลูกซ่อมทันที 

วิธีที่คลินิกพืชคูลเกษตรแนะนำการดูแลรักษาหอมแดงต้องการให้น้ำ น้ำมากและสม่ำเสมอในระยะเจริญเติบโตและแตกกอ หากปลูกในที่ ๆ  มีอากาศแห้งและลมแรง อาจต้องคอยให้น้ำบ่อย ๆ เช่น ภาคอีสาน ช่วงอากาศแห้งมาก ๆระยะแรกอาจให้น้ำวันละ  2  ครั้ง เช้าเย็น ในภาคเหนือเกษตรกรจะให้น้ำประมาณ 3-7 วันต่อครั้ง

การใส่ปุ๋ย   

–  เมื่ออายุ 14 วันหลังปลูก ควรใส่ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนียมซัลเฟต อัตรา 20-25 กิโลกรัม/ไร่

–  เมื่ออายุ 35-40 วัน ให้ใส่ปุ๋ย 15-15-15 ในอัตรา 20-50 กิโลกรัม/ไร่

การใส่ปุ๋ยใช้วิธีโรยห่างๆ ต้นห่างจากต้นราว 7 ซม. หรือใช้วิธีโรยให้ทั่วแปลงก็ได้ หลังจากให้ปุ๋ยให้รดน้ำหรือเอาน้ำเข้าแปลงให้ชุ่ม

การกำจัดวัชพืชที่คลินิกพืชคูลเกษตรแนะนำ ควรกำจัดวัชพืชบ่อย ๆ เมื่อวัชพืชยังเล็ก หากโตแล้วจะทำการกำจัดยากและจะกระทบกระเทือนรากหอมแดงได้มาก ปัจจุบันนิยมใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชมากขึ้นเพราะประหยัดแรงงานกว่า ตัวอย่างสารเคมีที่ใช้กำจัดวัชพืชในแปลงหอมแดงได้แก่ อลาคลอร์ อัตราการใช้ให้ใช้ตามที่ระบุในฉลากยา

การเก็บเกี่ยว หอมแดง โดยปกติหอมแดงที่ปลูกในฤดูหนาว จะแก่จัดเมื่ออายุ  70-110  วัน  ถ้าปลูกในฤดูฝนจะสามารถเก็บได้เมื่ออายุประมาณ 45 วัน แต่ผลผลิตของหอมแดงทั้ง 2 ฤดูแตกต่างกัน คือในฤดูหนาวจะให้ผลผลิตมากเป็น 2-3 เท่าของในฤดูฝน  จึงเป็นเหตุให้หอมแดงในฤดูฝนมีราคาสูงกว่าหอมแดงที่เริ่มแก่แล้วจะสามารถสังเกตได้จากสีของใบจะเขียวจางลง  ปลายใบเริ่มเหลืองและใบมักจะถ่างออก  เอนล้มลงมากขึ้น ถ้าบีบส่วนคอ คือบริเวณโคนใบต่อกับหัวหอมจะอ่อนนิ่ม ไม่แน่นแข็ง แสดงว่าหอมแก่แล้ว

หลังจากเก็บเกี่ยว มีการปฏิบัติคล้ายกระเทียม  คือหอมแดงที่ถอนแล้วต้องนำมาผึ่งลมในที่ร่มให้ใบเหี่ยวแห้งจากนั้นก็มัดเป็นจุก คัดขนาดและทำความสะอาด คัดพันธุ์แล้วนำไปแขวนไว้ในที่ร่ม เช่นใต้ถุนบ้าน ให้มีลมโกรก เพื่อระบายความชื้นจากหัวและใบหอม ไม่ให้ถูกแดด ฝนหรือน้ำค้าง  หอมแดง หากเก็บไว้ในอากาศอบอ้าวจะเกิดโรคราสีดำ  และเน่าเสียหายเช่นเดียวกับกระเทียม

คลินิกพืชคูลเกษตรแนะนำการเก็บ หอมแดง ไว้ทำพันธุ์ หอมแดง ที่แก่จัดหากเก็บรักษาดีจะฝ่อแห้งเสียหาย  เพียง  35-40%  ควรคัดเลือกหอมแดงที่จะใช้ทำพันธุ์  แยกออกมาต่างหากจากส่วนที่จะขาย  และฉีดพ่นยากันรา  เช่น  เบนเลท  ให้ทั่ว  และนำไปผึ่งลมจนแห้งสนิทจึงนำไปเก็บรักษาไว้ทำพันธุ์  (ไม่ควรนำมารับประทาน) จะช่วยป้องกันไม่ให้หอมแดงเน่าเสียหายง่าย

ซื้อออนไลน์ ห่างไกลโควิด ส่งไว ส่งฟรี ยินดีให้บริการ มีบริการเก็บเงินปลายทาง

ช่องทางการสั่งซื้อและขอคำปรึกษา จัดการได้ทันที สอบถามได้ที่

โทร. 095-237-1723

เข้ากลุ่มคนรักพืช เพื่อติดตามความรู้ใหม่ๆ สอบถามปัญหาพืช ได้ทุกวันที่นี่

ไลน์แอด @koolkaset คลิกที่นี่ 

สั่งซื้อโดยตรงทาง คลินิกพืชคูลเกษตร คลิกที่นี่ 

สั่งซื้อทาง ลาซาด้า คลิกที่นี่

สั่งซื้อทาง ช้อปปี้ คลิกที่นี่  

#คลินิกพืช #คลินิกพืชคูลเกษตร #คูลเกษตร #ที่ปรึกษาพืช #ออนไลน์ #ทั่วไทย #ที่ปรึกษาพืชออนไลน์ทั่วไทย #KoolKaset #พืช #เกษตร #แมลง #หนอน #เพลี้ย #ปุ๋ย #กำจัดหญ้า #กำจัดแมลง #ศัตรูพืช #วัชพืช #โรคพืช #ต้นไม้ #เพลี้ยไฟ #เพลี้ยจั๊กจั่น #เพลี้ยอ่อน #แมลงหวี่ขาว #หญ้า #ไร #ผลไม้ #ไม้ดอก #ข้าว

                                                                       อ้างอิง

  • https://www.arda.or.th
  • https://puechkaset.com
  • https://www.kasetnews.com
  • https://www.kaset1009.com/th
  •  https://pantip.com/topic/31165829

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *