การดูแล ดอกผีเสื้อ ออกดอกสม่ำเสมอ สีสวยสดใสหลากหลายสี

การดูแล ดอกผีเสื้อ ออกดอกสม่ำเสมอ สีสวยสดใสหลากหลายสี

  1. อุปกรณ์ในการเพาะเมล็ดดอกไม้
  • ถาดเพาะ  หรือ ตะกร้าเพาะ
  1. การเตรียมวัสดุเพาะ  เทวัสดุเพาะลงในกระบะ แล้วผสมน้ำลงไปในวัสดุเพาะ โดยการขุดหลุมบริเวณตรงกลางและเติมน้ำลงไปทีละน้อย ระวังอย่าให้มากจนเกินไป  คลุกเคล้าให้เคล้ากันเพื่อให้ได้ความชื้นพอเหมาะ  ทดสอบด้วยการบีบวัสดุเพาะด้วยมือ สังเกตน้ำที่ไหลออกตามอุ้งมือเล็กน้อย  หากมากหรือน้อยเกินไป สามารถผสมน้ำหรือวัสดุเพาะเพิ่มเพื่อให้ความชื้นพอเหมาะ
  2. การเพาะเมล็ดในถาดเพาะ  นำวัสดุเพาะที่เตรียมไว้  บรรจุลงในถาดเพาะให้เต็มทั่วทุกหลุม หลังจากนั้นกระแทกถาดเพาะเบาๆพอประมาณ 1 ครั้งเพื่อให้ดินแน่นขึ้น ไม่แนะนำให้ใช้มือกดเพราะดินจะแน่นจนเกินไป  จะสังเกตเห็นว่าบางหลุมดินยุบลงไป สามารถเติมวัสดุเพาะได้ในหลุมที่ยังไม่เต็ม  แล้วใช้มือหรือไม้เกลี่ยหน้าวัสดุเพาะให้เสมอกัน หลังจากนั้นให้หยอดเมล็ดลงถาดเพาะ 1 เมล็ด ต่อ 1 หลุม
  3. การกลบเมล็ด   หลังจากหยอดหรือหว่านเมล็ดแล้ว  สำหรับเมล็ดที่มีขนาดเล็กมาก ส่วนใหญ่จะเพาะในตะกร้า ไม่ควรกลบเมล็ดหรือกลบบางๆ การกลบเมล็ดหนาสำหรับเมล็ดเล็กนั้น จะส่งผลต่ออัตราการงอกที่ลดลง   สำหรับเมล็ดที่มีขนาดใหญ่สามารถกลบเมล็ดได้หนาขึ้น   วัสดุที่ใช้กลบเมล็ดแนะนำให้ใช้วัสดุเพาะหรือขุยมะพร้าวละเอียด  ร่อนผ่านตระแกรงลงบนถาดเพาะได้โดยตรง  สังเกตว่าบริเวณใดบาง ให้ร่อนเพื่อกลบซ้ำบริเวณนั้น
  4. ระยะต้นกล้า และการพรางแสง
  • ระยะที่ 1 เริ่มตั้งแต่เพาะเมล็ด – ต้นกล้าเริ่มทยอยงอก และใบเลี้ยงเริ่มแผ่พรางแสง  80 – 90 %
  • ระยะที่ 2 เริ่มแผ่ใบเลี้ยง – ใบเลี้ยงแผ่เต็มพรางแสง  50 %  
  • ระยะที่ 3 ใบเลี้ยงแผ่เต็ม – ใบจริงคู่แรกเริ่มแทงพรางแสง 20 –  25 %  
  • ระยะที่ 4 ใบจริงคู่แรกเริ่มแทง – มีใบจริง 2 คู่ขึ้นไป พร้อมย้ายปลูกไม่พรางแสง

พืชมีปัญหาปรึกษาคลินิกพืชคูลเกษตรทันทีได้ที่

1.การย้ายปลูก ต้นกล้าลงกระถางหรือถุงดำ หลังจาก การเพาะเมล็ดไปแล้วประมาณ 25-30 วัน ให้สังเกต ต้นกล้าเมื่อมีใบจริง 2 คู่ขึ้นไป ต้นกล้าจะโตพอที่จะย้ายได้  นำต้นกล้าลงในถุงพลาสติก  โดยการเจาะหลุมดินให้ลึกและกว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา แล้วนำต้นกล้าหยอดลงในหลุมแล้วกลบด้วยดิน  หากต้นกล้ายืดหรือยาวกว่าปกติให้เจาะหลุมลึกขึ้นอีก หยอดต้นกล้าลงหลุมและกลบให้ชิดถึงใบจริงคู่แรก ช่วยแก้ปัญหาต้นกล้ายืดผิดปกติได้  ในกรณีที่ต้องการปลูกในถุงดำหรือกระถางไม่ย้ายลงแปลง ให้ดูแลต้นกล้าจนกระทั่งโต ตามรายละเอียดการให้น้ำ การให้ปุ้ย และการดูแลรักษา ในหัวข้อถัดไป

2.การย้ายปลูกต้นกล้าลงแปลง สำหรับท่านที่ต้องการปลูกประดับแปลง  หลังจากต้นกล้าที่ย้ายลงถุงดำตั้งตัวและเจริญเติบโตพอสมควร ประมาณ  15 วันขึ้นไปหรือดูปริมาณรากว่าหุ้มดินในถุงดีแล้ว  ก่อนย้ายปลูก 1 สัปดาห์ ควรลดปริมาณการให้น้ำลงเพื่อสร้างให้ต้นกล้า มีความทนทานต่อการย้ายปลูก 

3.หลักการปฏิบัติในการย้ายปลูก

  • ต้นกล้าในตอนที่แดดอ่อนและในร่มเตรียมแปลงปลูกอย่างดี รดน้ำแปลงให้ดินชื้นก่อนการย้ายปลูก
  • ก่อนย้ายต้นกล้า ให้รดน้ำต้นกล้าให้ชุ่มก่อนทำการย้ายปลูก ดึงต้นกล้าเบาๆหรือใช้ใช้แหนบคีบ พร้อมดินหุ้มรากไปให้มากๆ เพื่อรากจะได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด
  • ปลูกในหลุมที่กว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา และควรปลูกให้ใบจริงอยู่ใกล้กับระดับดินมากที่สุด เพื่อที่เวลารดน้ำต้นกล้า จะไม่หักล้มง่าย และแก้ปัญหาต้นกล้ายืด
  • รดน้ำให้ชุ่มโดยใช้บัวรดแบบฝอยละเอียด

4.การเตรียมดินปลูก สำหรับบรรจุลงกระถาง การเตรียมดินปลูกต้องพิถีพิถันพอสมควร  เพราะไม้ดอกส่วนใหญ่มีอายุการออกดอกสั้น โดยเฉพาะไม้ดอกที่ไวต่อแสงจะออกดอกทันทีเมื่อครบอายุและต้นสมบูรณ์  ดินปลูกต้องเป็นดินโปร่ง ร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำดี  ในขณะเดียวกันอุ้มความชื้นได้ดีพอสมควร มีความเป็นกรดเล็กน้อย มี pH ประมาณ 6.5 – 7 ส่วนผสมของดินปลูกควรหาง่ายในท้องถิ่น  สำหรับดินผสม  1  ลูกบาศก์เมตร  ควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร  15 – 15 – 15  จำนวน  0.5  กิโลกรัม  และสูตร 0 – 46 – 0   จำนวน  1  กิโลกรัม   ผสมกันตามสัดส่วน

  • สูตรที่ 1 ส่วนประกอบดินผสมโดยทั่วไป  ได้แก่  ดินร่วน  ปุ๋ยหมัก  แกลบดิบ   แกลบเผา   ขุยมะพร้าว อัตราส่วน  1 : 1 : 2 : 2 : 2
  • สูตรที่ 2 ส่วนประกอบดินผสมโดยทั่วไป  ได้แก่ แกลบดิบ  ขุยมะพร้าว  ดิน   อัตราส่วน 3 : 5 : 2
  • สูตรที่ 3 ขุยมะพร้าว  ทรายหยาบ  + โดโลไมท์  อัตราส่วน 3 : 1 +โดโลไมท์ อัตราส่วนผสมรวมกัน 240 ลิตร ( ขุยมะพร้าว 180 ลิตร + ทรายหยาบ 60 ลิตร  ใช้โดโลไมท์ 0.5 กก.) หรือ ทั้งนี้สามารถดัดแปลงสูตรได้ตามความเหมาะสม ตามประสบการณ์ หรือคู่มืออื่นๆ

ดินปลูกสำหรับปลูกลงแปลง ไถพรวนและพลิกหน้าดินตากไว้ประมาณ 7 – 10 วัน เพื่อกำจัดวัชพืช หลังจากนั้นให้ทำการไถคราดเพื่อกำจัดวัชพืชออกให้หมดและทำให้ดินร่วนซุย  ให้รากพืชเดินได้สะดวกเหมาะสำหรับการปลูก ถ้าดินมีปัญหาโดยมีค่าความเป็นกรด ด่าง น้อยกว่า 6. 5 ควรเติมปูนขาวเพื่อปรับสภาพ pH ของดิน อัตรา  100 – 300 กก./ไร่  ในขณะใส่ปูนขาวดินควรมีความชื้นเพื่อให้ปูนทำปฏิกิริยากับดินได้ดียิ่งขึ้น และปล่อยทิ้งไว้ 1 สัปดาห์  ผสมปุ๋ยสูตร  15 – 15 – 15 รองพื้น  ใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปรับสภาพดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี และเพิ่มแร่ธาตุในดิน

การดูแลรักษาการให้น้ำ  ควรรดน้ำทุกวันในตอนเช้าหรือเย็น หากรดน้ำในเวลาเย็นควรให้น้ำ ที่ค้างอยู่บนใบแห้งก่อนพระอาทิตย์ตกดิน   และเมื่อมีดอกบาน อย่ารดน้ำให้ถูกดอกเพราะอาจทำให้ดอกช้ำหรือเน่าได้  การให้น้ำควรให้สภาพดินชุ่มสลับแห้ง ไม่ควรให้ชุ่มตลอดเวลา เพราะอาจเป็นสาเหตุของโรครากเน่า โคนเน่า และทำให้ระบบรากไม่พัฒนา ส่งผลให้ต้นแคระแกร็น ไม่สมบูรณ์  สามารถสังเกตสีของดินหรือวัสดุเพาะ หากมีสีดำหรือน้ำตาลเข้ม แสดงว่าดินยังชุ่มหรือมีน้ำอยู่ เมื่อดินเปลี่ยนสีเป็นน้ำตาลอ่อน แห้งแข็ง แสดงว่าดินขาดน้ำ

การให้ปุ๋ยสูตรน้ำ

  • ระยะที่ 1  เสริมสร้างการเจริญเติบโตของราก  ลำต้นและใบ  หลังจากย้ายกล้าแล้วประมาณ 7 วัน  ให้ปุ๋ยไนโตรเจนสูง  เช่น สูตร  15 – 0 – 0 หรือ 25 – 7 – 7  ในอัตรา 1  ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ  20   ลิตร รดทุกๆ  5 – 7  วัน  ประมาณ  2 – 3  ครั้ง
  • ระยะที่ 2   ช่วงการเจริญเติบโตถึงระยะสังเกตเห็นตุ่มดอก  ให้ปุ๋ยสูตร 15 – 15 – 15  อัตรา  75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ  ละลายน้ำ   20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน  จนกระทั่งดอกเริ่มบาน
  • ระยะที่ 3  เมื่อดอกเริ่มบาน  ให้ปุ๋ยสูตร ให้ปุ๋ยสูตร 8 – 24 – 24  หรือ 13 – 13 – 21  อัตรา  75 กรัม หรือ 5 ช้อนโต๊ะ  ละลายน้ำ   20 ลิตร รดทุกๆ 3 วัน  ต่อเนื่องตลอดอายุการให้ดอก

ปุ๋ยเม็ด สามารถให้ปุ๋ยสูตรต่างๆ เหมือนสูตรน้ำ ระยะที่ 1 – 3  อัตรา 10 กรัม/ต้น   ทุกๆ  7 วัน  โดยฝังลงในดินหรือใช้ดินกลบ

ข้อควรระวัง :  การให้ปุ๋ยเม็ด ระวังอย่าให้โดนโคนต้นเพราะอาจทำให้เน่าและไหม้ได้ ควรฝังลงดินหรือใช้ดินกลบ

  • การให้ปุ๋ยน้ำ อาจสัมผัสโดนใบและทำให้ใบไหม้ได้ ดังนั้นเมื่อรดปุ๋ยแล้วให้รดน้ำเพื่อล้างใบตาม

หมายเหตุ :  หากไม่สามารถหาปุ๋ยได้ตามสูตร สามารถใช้ปุ๋ยสูตร  15 – 15 – 15 หรือสูตรเสมอทดแทนได้ทุกระยะ  แต่การเจริญเติมโตอาจไม่ดีเท่าสูตรที่แนะนำ  หรือสำหรับบางท่านที่ไม่สะดวกในการให้ปุ๋ยบ่อยครั้ง สามารถใช้ปุ๋ยละลายช้า สูตร  14 – 14 – 14  แนะนำเป็นตัว เนเจอร์ โค้ท สามารถปลดปล่อยธาตุอาหารพืช ได้ต่อเนื่อง สม่ำเสมอ นานถึง 3 เดือน แต่จะไม่ดีเท่าการให้ปุ๋ยตามระยะ

ซื้อออนไลน์ ห่างไกลโควิด ส่งไว ส่งฟรี ยินดีให้บริการ มีบริการเก็บเงินปลายทาง

ช่องทางการสั่งซื้อและขอคำปรึกษา จัดการได้ทันที สอบถามได้ที่

โทร. 095-237-1723

เข้ากลุ่มคนรักพืช เพื่อติดตามความรู้ใหม่ๆ สอบถามปัญหาพืช ได้ทุกวันที่นี่

ไลน์แอด @koolkaset คลิกที่นี่ 

สั่งซื้อโดยตรงทาง คลินิกพืชคูลเกษตร คลิกที่นี่ 

สั่งซื้อทาง ลาซาด้า คลิกที่นี่

สั่งซื้อทาง ช้อปปี้ คลิกที่นี่  

อ้างอิง

  • http://www.trgreen.co.th
  • https://www.nanagarden.com
  • https://pantip.com
  • https://www.royalparkrajapruek.org

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *