ลักษณะของ มะเขือขื่น เป็นสมุนไพรก็ได้เป็นผักก็ดี

ลักษณะของ มะเขือขื่น เป็นสมุนไพรก็ได้เป็นผักก็ดี มะเขือขื่น เป็นสมุนไพรท้องถิ่นมีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า มะเขือแจ้ดิน มะเขือเปราะ มะเขือเสวย (เชียงใหม่), มังคิเก่ (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน), เขือเพา (นครศรีธรรมราช), มะเขือขันคำ มะเขือคำ มะเขือคางกบ มะเขือแจ้ มะเขือเหลือง (ภาคเหนือ), เขือหิน (ภาคใต้) เป็นต้น นอกจากมะเขือชนืดนี้จะเป็นสมุนไพรแล้วยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูอีกด้วยที่ คลินิกพืชคูลเกษตร เป็นพืชล้มลุกเป็นพืชท้องถิ่นของไทย มีถิ่นกำเนิดบริเวณเขตร้อนของทวีปเอเชีย นิยมปลูกกันทั่วพื้นที่รวมถึงประเทศไทย ต้นเป็นทรงพุ่มขนาดเล็ก ลำต้นกลม มีหนามปกคลุมทั่วทั้งต้น และมีกลิ่นเฉพาะตัว จะขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนซุย มักพบขึ้นตามที่รกร้างว่างเปล่าทั่วไป ป่าเปิด ป่าละเมิด ทุ่งหญ้า เป็นต้น 

  • ใบ สำหรับใบของมะเขือขื่น เป็นใบทรงเรียวรี โคนใบรูปหัวใจ ปลายแหลม ส่วนขอบใบหยักเว้าเป็นพูตื้น ๆ ประมาณ 5-7 พู หลังใบเป็นสีเขียว ส่วนท้องใบเรียบเป็นมัน แผ่นใบมีขนรูปดาวทั้งสองด้าน มีหนามแหลมตามเส้นกลางใบ ก้านใบอ้วนสั้น
  • ดอก มะเขือขื่น เป็นช่อสั้นแบบช่อกระจะ มีดอกย่อยประมาณ 4-6 ดอก หรือออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ กลีบดอกเป็นรูปหอก มีขนนุ่มโดยจะออกดอกในช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนสิงหาคม 
  • ผล มะเขือขื่น ลักษณะของผลเป็นรูปทรงกลม มีขนาดเล็ก  ผิวผลเรียบเป็นมัน เปลือกเหนียว ผลอ่อนผิวจะเรียบลื่นเป็นสีเขียวเข้มมีลายขาวแทรก เมื่อสุกแล้วจะเป็นสีเหลืองสด มีกลิ่นเฉพาะตัว มีรสขื่น มีเมล็ดจำนวนมาก จะติดผลช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม

พืชมีปัญหาปรึกษาคลินิกพืชคูลเกษตรทันทีได้ที่

คลินิกพืชคูลเกษตรสรรพคุณของมะเขือขื่น  ตามตำราแผนยาไทยจะใช้ทุกส่วนของมะเขือขื่นในการเป็นสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ เริ่มจากผลมีรสเปรี้ยวขื่นเย็น ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย รากเป็นยาแก้ไข้ที่มีพิษร้อน ช่วยกระทุ้งพิษไข้  ผลและรากมีสรรพคุณเป็นยาแก้ไอ และยาแก้ไข้สันนิบาต รากมีรสขื่นเอียน เปรี้ยวเล็กน้อย มีสรรพคุณเป็นยาขับเสมหะและน้ำลาย โดยจะช่วยล้างเสมหะในลำคอ และทำให้น้ำลายน้อยลง ทำให้น้ำลายแห้ง หากนำรากมาฝนใช้เป็นกระสาย ยาแก้เด็กเป็นโรคซาง ชัก ช่วยแก้อาการปวดกระเพาะอาหาร ส่วนใบสดใช้ภายนอกนำมาตำพอกแก้พิษ แก้ฝีหนอง เมล็ดมีสรรพคุณเป็นยารักษามะเร็งเพลิง ช่วยแก้อาการปวดบวม ปวดหลัง ฟกช้ำดำเขียว และใช้เป็นยาช่วยขับลมชื้น แก้อาการปวดข้อเนื่องจากลมชื้นติดเกาะ แก้ไขข้ออักเสบ มือเท้าชา ด้วยการใช้ผลสดประมาณ 70-100 กรัม นำมาตุ๋นกับไตหมูรับประทาน 

คลินิกพืชคูลเกษตรประโยชน์ของมะเขือขื่น นอกจากจะเป็นสมุนไพรแล้ว คนไทยยังนิยมนำผลมะเขือขื่นที่แก่แล้วมาใช้ปรุงอาหาร โดยใช้เฉพาะส่วนผิวนอกและเนื้อเท่านั้น (แยกส่วนที่เป็นเมล็ดออกไปให้หมดเสียก่อน) อาจใช้กินเป็นผักจิ้มร่วมกับน้ำพริก (มีน้ำพริกบางตำรับสำหรับจิ้มมะเขือขื่นโดยเฉพาะ) หรือปลาร้า ฯลฯ บางครั้งใช้เนื้อมะเขือขื่นในการปรุงเครื่องจิ้ม ใช้ปรุงรสอาหารบางชนิด เช่น ส้มตำอีสาน ให้รสชาติพิเศษไปอีกแบบ ใช้ยำกับสาหร่าย (เทา) ในภาคอีสาน (เรียกว่าลาบเทา) ใช้ตำกับผลตะโกและมะขามเรียกว่าเมี่ยง มี 3 รส คือขื่น ฝาด และเปรี้ยว ในภาคกลางใช้เนื้อมะเขือขื่นเป็นผักแกง เช่น แกงส้มมะเขือขื่นกับเห็ดรวกและแกงป่าต่างๆ เช่น แกงป่าเนื้อ แกงป่านก แกงป่าปลา ฯลฯ มะเขือขื่นจึงกลายเป็นอาหารที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการเป็นอย่างมาก 

คลินิกพืชคูลเกษตรวิธีปลูกและดูแลมะเขือขื่น ให้เพาะเมล็ดในถุงชำจนกระทั่งต้นกล้ามีอายุ 30 วัน ค่อยย้ายไปปลูกลงในดิน เว้นระยะห่างให้เหมาะสม โดยมะเขือชนิดนี้ทนแล้งได้ดี โตได้ในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนปนทรายมากเป็นพิเศษ หมั่นรดน้ำเช้า-เย็น ทุกวัน แต่ระวังอย่าให้น้ำขัง ควรปลูกในที่ที่มีแสงแดด และทำการตัดแต่งกิ่งเสมอ ไม่นานประมาณ 60 วัน ก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งระยะในการเก็บเกี่ยวคือตั้งแต่มีผลสีเขียว และสีเหลือง ให้นำกรรไกรมาตัดขั้ว ก็จะทำให้มีระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวผลได้เรื่อยๆ

  • เมื่อกตัดออกมาจากต้นเรียบร้อยแล้วต้องเก็บให้ถูกวิธีจึงจะรักษาความสดของมะเขือขื่นได้นานๆก็คือล้างน้ำให้สะอาดแล้วสะเด็ดน้ำออกให้หมด นำมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าขาวบาง นำไปใส่ถุงหรือกล่องพลาสติก แช่ตู้เย็นไส้ก็จะเห็บไว้ได้นาน นำออกมารับประทานเมื่อไหร่ก็จะได้ผลสดใหม่เสมอ 
  • มะเขือขื่นอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด  เชื่อกันว่า หากรับประทานมะเขือขื่นเข้าไปมาก ๆ จะทำให้มีความรู้สึกทางเพศสูง ส่วนในหญิงตั้งครรภ์นั้นหากรับประทานมะเขือขื่น เชื่อว่าครรภ์จะโตมาก ทำให้คลอดบุตรได้ยาก ดังนั้นควรรับประทานแค่พอดีไม่เนอะไม่น้อยจนเกินไป 
  • และด้วยลักษณะพิเศษของเนื้อมะเขือขื่นคือมีสีเขียว รสขื่น และเหนียว ทำให้เด็กๆรุ่นใหม่ ไม่กล้าที่จะลองทานผักชนิดนี้ แต่ด้วยภูมิปัญญา และการดัดแปลงอาหารของคนไทย ทำให้ความพิเศษของมะเขือขื่น กลายเป็นอาหารที่อร่อย และเต็มไปด้วยคุณค่าทั้งทางสมุนไพรและการกินเป็นผักแกล้ม ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

ซื้อออนไลน์ ห่างไกลโควิด ส่งไว ส่งฟรี ยินดีให้บริการ มีบริการเก็บเงินปลายทาง

ช่องทางการสั่งซื้อและขอคำปรึกษา จัดการได้ทันที สอบถามได้ที่

โทร. 095-237-1723

เข้ากลุ่มคนรักพืช เพื่อติดตามความรู้ใหม่ๆ สอบถามปัญหาพืช ได้ทุกวันที่นี่

ไลน์แอด @koolkaset คลิกที่นี่ 

สั่งซื้อโดยตรงทาง คลินิกพืชคูลเกษตร คลิกที่นี่ 

สั่งซื้อทาง ลาซาด้า คลิกที่นี่

สั่งซื้อทาง ช้อปปี้ คลิกที่นี่  

#คลินิกพืช #คลินิกพืชคูลเกษตร #คูลเกษตร #ที่ปรึกษาพืช #ออนไลน์ #ทั่วไทย #ที่ปรึกษาพืชออนไลน์ทั่วไทย #KoolKaset #พืช #เกษตร #แมลง #หนอน #เพลี้ย #ปุ๋ย #กำจัดหญ้า #กำจัดแมลง #ศัตรูพืช #วัชพืช #โรคพืช #ต้นไม้ #เพลี้ยไฟ #เพลี้ยจั๊กจั่น #เพลี้ยอ่อน #แมลงหวี่ขาว #หญ้า #ไร #ผลไม้ #ไม้ดอก #ข้าว #ข้าวโพด #ลำไย #มะม่วง #ข้าวโพด #มันสำปะหลัง #มันเทศ #กัญชา #กระท่อม #ทุเรียน #พริก #มะเขือ #มะนาว #ถั่วฝักยาว #ถั่วพลู #ถั่วเขียว #ถั่วเหลือง #ถั่วดำ #กล้วย #กล้วยหอม #สัปปะรด #มะพร้าว #อินทผาลัม #ผักกาด #กะหล่ำปลี #กะหล่ำดอก #โหระพา #กะเพรา #สะระแหน่ #บวบ #ฟักทอง #แตงโม #แตงกวา #แตงร้าน #แตงไทย #มะระ #น้ำเต้า #กระเจี๊ยบ #แอปเปิ้ล #สตรอเบอรี่ #มะละกอ #มะขาม #มะขามเทศ #เห็ด #ถั่วแขก #หน่อไม้ฝรั่ง #แครอท #หัวไช้เท้า #เผือก #มันเทศ #ชา #กาแฟ #มะกรูด #ตะไคร้ #องุ่น #ส้มเขียวหวาน #ส้ม #ส้มโอ #ฟัก #แฟง #แตง #ลิ้นจี้ #ลองกอง #พุทรา #ขนุน #แก้วมังกร #คะน้า #กวางตุ้ง #ผักชี #ผักชีฝรั่ง #ผักชีลาว #แคนตาลูป #มะเขือพวง #มะเขือเปราะ #มะเขือยาว #มะเขือม่วง #โคโลคาเซีย #ไทรเกาหลี #กุหลาบ #ดาวเรือง #มะลิ #เบญจมาศ #สร้อยทอง #องุ่น #สาลี่ #ฝรั่ง #มะยงชิด

                                                                       อ้างอิง

  • https://kaset.today
  • http://loklilub.blogspot.com
  • https://www.nanagarden.com
  • https://www.technologychaoban.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *